Local Election เตรียมพร้อมเลือกตั้งเทศบาล เลือกตั้งรอบนี้ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกเขต !
อีกหนึ่งวาระการเลือกตั้งท้องถิ่นที่สำคัญคือ ‘การเลือกตั้งเทศบาล’ ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568
ก่อนเข้าคูหา WeVis ขออาสาปูพื้นเล่าให้ฟังว่าเทศบาลคืออะไร และการเลือกตั้งครั้งนี้เกี่ยวอะไรกับใครบ้าง
หากคุณมีสิทธิเลือกตั้ง เตรียมตัวให้พร้อมและชวนเพื่อนข้างบ้านออกไปใช้สิทธิด้วยแอตติจูด “Do you want to do this ? อยากจะทำไหม ภารกิจของจักรวาล ?”
เทศบาลคืออะไร ?
เทศบาลเป็นหนึ่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามเงื่อนไขของกฎหมาย จำนวนประชากรในเขตพื้นที่และและศักยภาพทางเศรษฐกิจของท้องถิ่น ประกอบด้วย เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร
‘เทศบาลตำบล’ มาจากการยกระดับของ อบต. ที่อาจเป็น อบต. แห่งเดียว หรือเป็นการควบรวมกันของ อบต. หลายแห่งตามที่กระทรวงมหาดไทยพิจารณา
’เทศบาลเมือง’ ต้องเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัด หรือมีประชากร 10,000 คนขึ้นไป โดยต้องมีรายได้เพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ เทศบาล พ.ศ. 2496
’เทศบาลนคร’ ต้องมีประชากร 50,000 คนขึ้นไป มีรายได้เพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นตาม พ.ร.บ เทศบาล พ.ศ. 2496

เทศบาลมีหน้าที่มอบบริการสาธารณะและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยมีความใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของเรามากกว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับใหญ่อย่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. เพราะ อบจ. มีเขตพื้นที่ดูแลครอบคลุมทั้งจังหวัด แต่เทศบาลมีพื้นที่รับผิดชอบในขนาดที่เล็กกว่า ทำให้การดูแลจัดการเป็นไปได้อย่างทั่วถึงมากกว่า
และเนื่องจากการจัดตั้งเทศบาลต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางกฎหมาย จึงทำให้บางพื้นที่อาจไม่มีเทศบาลเป็นผู้ดูแล แต่จะอยู่ภายใต้การบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับพื้นฐาน
หน้าที่โดยสังเขปของเทศบาล คือ
- วางแผนและพัฒนาพื้นที่ผ่านแผนพัฒนาท้องถิ่น
- ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เช่น ก่อสร้างซ่อมแซมถนน จัดการระบบขนส่งมวลชน ดูแลรักษาที่สาธารณะ เป็นต้น
- ส่งเสริมการศึกษา กีฬา สังคม และวัฒนธรรม
- สังคมสงเคราะห์ พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
- พัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
- พัฒนาการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เช่น จัดการขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และน้ำเสีย บำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- รักษาความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
โดยภารกิจของเทศบาลแต่ละประเภทก็จะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับศักยภาพและงบประมาณที่แต่ละเทศบาลมีอยู่

โครงสร้างการบริหารของเทศบาล ประกอบด้วย
- นายกเทศมนตรีหนึ่งคน ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหาร จัดการงานของเทศบาลตามที่กฎหมายกำหนด เสนอแผนการใช้งบประมาณและแผนการลงทุนต่อสภาเทศบาล
- สภาเทศบาล ทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของนายกเทศมนตรี ออกกฎหมายที่ชื่อว่า ‘เทศบัญญัติ’ เพื่ออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีของเทศบาล โดยจำนวนของสมาชิกเทศบาล (สท.) จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของเทศบาล คือ
- เทศบาลตำบล มี 2 เขตเลือกตั้ง มี สท. ได้ เขตละ 6 คน รวมเป็น 12 คน
- เทศบาลเมือง มี 3 เขตเลือกตั้ง มี สท. ได้ เขตละ 6 คน รวมเป็น 18 คน
- เทศบาลนคร มี 4 เขตเลือกตั้ง มี สท. ได้ เขตละ 6 คน รวมเป็น 24 คน
ซึ่งทั้งหมดมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และมีวาระอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ 4 ปี
ประชาชนผู้เสียภาษีที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งเทศบาลมีหน้าที่สำคัญในการเลือกผู้แทนท้องถิ่นเข้ามาบริหาร ‘งบประมาณเทศบาล’ เพื่อตอบสนองความต้องการของเขตพื้นที่ผ่านบริการสาธารณะและการอำนวยความสะดวก
เลือกตั้งครั้งนี้ ใครเกี่ยวข้องบ้าง ?

✅ ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งเทศบาลคือคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตเทศบาลต่าง ๆ ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง ถือสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีในวันเลือกตั้ง โดยต้องออกไปใช้สิทธิเลือกนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.
❌ ประชาชนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จะไม่มีสิทธิเลือกตั้งเทศบาล
⚠️ ในบางพื้นที่ที่นายกเทศมนตรีหรือ สท. ลาออกหรือพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ อาจมีการเลือกตั้งซ่อมไปก่อนแล้ว จึงควรตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งของตัวเองว่ามีสิทธิเลือกตั้งตำแหน่งใดบ้างในวันที่ 11 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ หรือมีการเลือกตั้งซ่อมก่อนหน้านั้นหรือไม่
👉 หากไม่ชัวร์ ให้ตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งของตัวเองได้ที่เว็บไซต์ https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection-local/
เลือกตั้งเทศบาล ทำอย่างไร ?

- เช็กสิทธิก่อนเข้าคูหา
- ตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน ที่ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอที่เลือกตั้ง หรือจากเอกสารที่แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ส่งมายังเจ้าบ้านก่อนวันเลือกตั้ง
- หรือตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งออนไลน์ที่เว็บไซต์นี้
- 11 พฤษภาฯ เข้าคูหา กาบัตรสองใบ
- ผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งฯ ต้องใช้บัตรประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) หรือหลักฐานอื่นที่หน่วยงานรัฐออกให้ เช่น บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่รัฐ ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง เป็นหลักฐานในวันเลือกตั้ง
- ตรวจสอบรายชื่อหน้าคูหา และรับบัตร 2 สองใบ
- บัตรสีเหลืองทอง สำหรับเลือกนายกเทศมนตรี
- บัตรสีเขียว สำหรับเลือกสมาชิกสภาเทศบาล (สท.)
- เข้าคูหาทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในช่องทำเครื่องหมาย ดังนี้
- บัตรสีเหลืองทอง เลือกผู้สมัครนายกเทศมนตรีได้ 1 คน
- บัตรสีเขียว เลือกผู้สมัคร สท. ได้ไม่เกิน 6 คน ถ้าประสงค์ลงคะแนนให้ผู้สมัคร สท. น้อยกว่า 6 คน สามารถทำได้ แต่ ! จะลงคะแนนให้มากกว่า 6 คนไม่ได้ เพราะจะถือเป็นบัตรเสีย โดยทีสามารถเลือกผู้สมัคร สท. ได้อย่างอิสระ จะเลือก ‘ยกทีม’ หรือ ‘รายคน’ ก็ได้
ทำไมถึงเลือกตั้งเทศบาลถึงสำคัญ ?

ประการแรก เพราะ ‘งบประมาณเทศบาล’ มากจาก ‘ภาษีที่เราจ่าย’
เทศบาลมีแหล่งรายได้สำคัญ 3 ด้าน คือ
- ภาษีและอากรที่เทศบาลจัดเก็บเอง
- รายได้จากเงินอุดหนุนจากรัฐบาล หรือ อบจ. ซึ่งเป็นภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บแล้วจัดสรรให้ท้องถิ่น
- รายได้จากกิจการอื่น ๆ ของเทศบาลเอง เช่น โรงรับจำนำ กิจการเทศพาณิชย์ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า แหล่งที่มาของงบประมาณเทศบาลมาจาก ‘ภาษีของประชาชน’ เป็นสำคัญ ดังนั้นแล้ว การใช้จ่ายเพื่อจัดการปัญหาต่าง ๆ ผ่านการบริหารงานของเทศบาล จึงเกี่ยวข้องกับเราในฐานะ ‘ผู้จ่ายภาษี’
ประการที่สอง เพราะ ‘งบประมาณเทศบาล’ มุ่งพัฒนาท้องถิ่นที่เราอยู่อาศัย
เพราะจุดประสงค์หลักของงบประมาณเทศบาล คือการมอบบริการสาธารณะและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนในเขตพื้นที่ จึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับเราในฐานะ ‘ประชาชนในเขตพื้นที่’
จะเห็นได้ว่า งบประมาณก้อนนี้สำคัญกับเราทั้งในแง่ ‘ที่มา’ และ ‘การใช้จ่าย’
เพราะไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า และนอกเขต ! คุณจึงต้องรักษาสิทธิ
หากไม่ไปใช้สิทธิ คุณอาจถูกจำกัดสิทธิในการลงสมัครหรือเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง 6 ประการ เป็นเวลา 2 ปีนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ดังนี้
- สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. สว. สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น
- สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
- เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
- ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
- ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
- ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น
หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ ให้แจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิภายใน 7 วันก่อนหรือหลังวันเลือกตั้งที่เว็บไซต์ **https://stat.bora.dopa.go.th/Election/abscause/#/main**

ออกไปใช้สิทธิ เพื่อคุณภาพชีวิตท้องถิ่นที่ดีกว่าเดิม
11 พฤษภาฯ กลับบ้าน เข้าคูหา กาคนที่ชอบ
อ้างอิง