เรามีความเชื่อว่า ‘รัฐสภา’ ในฐานะที่เป็นตัวแทนของ ‘ประชาชน’ ข้อมูลการทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกการเข้าประชุม ผลการลงมติรายบุคคล ประวัติของผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกรัฐสภา งบประมาณรายจ่ายฯ หรือเงินเดือนและสวัสดิการ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของชุดข้อมูลที่เราคิดว่า “ควรเปิดเผย” เป็น ‘ข้อมูลสาธารณะ’ โดยที่ไม่ต้องมีการร้องขอ
แต่ในความเป็นจริง .. หลาย ๆ ชุดข้อมูลที่เรานำมาพัฒนาใน #ParliamentWatch ไม่ได้มีการเปิดเผยเป็นสาธารณะ เราต้องร้องขอข้อมูลโดยตรงจากทางรัฐสภาหรือเก็บข้อมูลด้วยตัวเอง ในครั้งนี้ก็เช่นกัน “งบประมาณรายจ่ายฯ คณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร” ก็เป็นข้อมูลที่เราได้ทำการร้องขอให้เปิดเผย ซึ่งเหตุผลที่เราต้องขอข้อมูลชุดนี้ เป็นเพราะช่องทางคณะกรรมาธิการถือเป็นช่องทางหลักในการผลักดันโครงการ งบประมาณ หรือนโยบายต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น ข้อมูลการใช้จ่ายนั้นจึงถือเป็นข้อมูลที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เป็นระยะเวลาเกือบสองปี ที่พวกเรา WeVis ใช้เวลากับการขอข้อมูล “สรุปภาพรวมค่าใช้จ่ายของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร” แม้ว่าปลายทางเราจะได้ข้อมูลมาย้อนหลังเพียง 3 ปี (ปี 66-68) ที่อยู่ในรูปแบบไฟล์สแกน PDF ที่อยู่ในแผ่น CD อีกที (.. 😅) และรูปแบบและคุณภาพของข้อมูลก็ไม่ได้เป็นตามที่คาดหวัง แต่ก็ถือว่าพวกเราได้เข้าถึงชุดข้อมูลสำคัญได้อีกหนึ่งชุด!
การใช้จ่ายของคณะกรรมาธิการก็เปรียบเสมือนข้อมูลที่ลอยอยู่ในอากาศ.. มีอยู่จริง แต่ประชาชนไม่เคยมีใครเข้าถึงได้ เราเคยได้ยินแต่การใช้จ่ายงบไป ‘ดูงาน’ (กิน เที่ยว นอน) ต่างประเทศหลักล้าน ที่ว่าข้าราชการระดับสูงต้องนั่ง First Class หรือ Business Class และนอนโรงแรม 4-5 ดาวเท่านั้น (มันมีกฎหมายนี้จริง ๆ นะ! ลองดูได้ในพระราชกฤษฎีกา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2560 🫣) ใจจริง เราเองก็อยากได้ข้อมูลที่มีรายละเอียดเยอะกว่านี้ เช่น ดูงานที่ประเทศอะไร วันที่เท่าไหร่ ใช้จ่ายไปกับอะไรและเท่าไหร่บ้าง อย่างที่บอกว่าชุดข้อมูลที่ได้มาก็ทำให้เราผิดหวังเช่นเดิม .. ทั้ง ๆ ที่เราคิดว่าข้อมูลเหล่านี้ แต่ละกรรมาธิการก็ควรจะมีรายละเอียดรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจน และที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นข้อมูลที่ควรเปิดเผยเป็นสาธารณะอยู่แล้ว (รอดูหน้าตาชุดข้อมูลที่ได้มาได้เลย..)
เราเลยอยากจะมาย้อนประสบการณ์การขอข้อมูลชุดนี้จากสำนักเลขาสภาสมาชิกผู้แทนราษฏรเพื่อเป็นการแบ่งปันประสบการณ์สนุก ๆ (รึเปล่านะ) ให้ทุกคนฟัง และเผื่อว่าในอนาคตมีใครอยากจะลองขอข้อมูลภาครัฐ จะได้รู้ว่าต้องทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้ข้อมูลมา
ภารกิจจักรวาล: การติดต่อรัฐสภา เพื่อร้องขอชุดข้อมูลที่อยากได้

ปัจจุบัน หากประชาชนทั่วไปต้องการเข้าถึงข้อมูลของรัฐสภา เราสามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ไม่ว่าจะเป็นผ่านช่องทางออนไลน์ (เว็บไซต์) หรือเข้าไปยื่นเอกสารที่รัฐสภาโดยตรง โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการฯ พ.ศ. 2540 ตามมาตรา 7, 9, และ 23 สำหรับชุดข้อมูลงบประมาณรายจ่ายประจำปีของคณะกรรมาธิการนี้ เราจะใช้อำนาจตามมาตรา 9 (3) ว่าด้วยแผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีที่กำลังดำเนินการ เพื่อยื่นขอให้ทางสำนักเลขาฯ เปิดเผยข้อมูล
ในตอนแรกเราได้ส่งคำขอไปในช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 ในการร้องขอข้อมูล 2 ชุด ได้แก่
- ข้อมูลรายชื่อคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะ ของสภาผู้แทนราษฎรในชุดที่ 25 ในรูปแบบ Excel และ CSV
- ข้อมูลการใช้งบประมาณของคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะ ของสภาผู้แทนราษฎรในชุดที่ 25 ในรูปแบบ Excel และ CSV
หมายเหตุ: สภาผู้แทนราษฎรชุดที่25 ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่ 24 มี.ค. 2562 – 20 มี.ค. พ.ศ. 2566
แต่สำนักเลขาฯ ได้มีการส่งหนังสือกลับมาแจ้งว่าสามารถเปิดเผยข้อมูลได้แค่ชุดเดียว คือรายการที่ 1 และปฏิเสธการเปิดเผยรายการที่ 2 ว่า ข้อมูลที่ขอมานั้นเป็นข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (จึ้งใจมั้ยล่ะ! 😲)

แต่เราไม่ยอมแพ้ จึงได้ขอยื่นอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (กวฉ.) เพื่อขอความเป็นธรรมในการเข้าถึงข้อมูลชุดนี้ (เขาเป็นใครและทำหน้าที่อะไร ติดตามต่อได้ที่ EP.2) ทำให้ในช่วงเดือน มี.ค. พ.ศ. 2567 สำนักเลขาฯ ได้ส่งเรื่องไปยัง กวฉ. เพื่ออธิบายสาเหตุของการไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่พวกเรา รวมถึงเข้าไปชี้แจงกับทาง กวฉ. เองก็ตาม ในช่วงเดือน มิ.ย. พ.ศ. 2567 แต่ กวฉ. ก็เห็นว่าเหตุผลดังกล่าวนั้นไม่เพียงพอต่อการปกปิดข้อมูลชุดนี้ เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลการดำเนินงานปกติของภาครัฐ และมีคำสั่งให้ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ทำให้พวกเราชนะการอุทธรณ์ครั้งนี้ และสามารถกลับไปเดินเรื่องร้องขอให้สำนักเลขาฯ เปิดเผยข้อมูลชุดนี้
สำหรับชัยชนะในการอุทธรณ์เรื่องการเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ ทางเราต้องขอขอบคุณคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาการต่างประเทศและความมั่นคงของประเทศ ที่เห็นว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ควรเปิดเผยให้แก่ประชาชน และเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลการทำงานของภาครัฐให้กับประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และตั้งคำถามต่อการทำงานของภาครัฐ
กลับมาต่อที่ภารกิจของจักรวาล ที่พวกเราจะต้องฝ่าฝันกับทางสำนักเลขาฯ อีก 2 แมตช์ กว่าจะได้ข้อมูลมา! ซึ่งในขณะนี้สภาดำเนินมาถึงชุดที่ 26 แล้ว (14 พ.ค. 2566 – ปัจจุบัน) เราจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงการขอข้อมูลเป็น ข้อมูลการใช้งบประมาณของคณะกรรมาธิการสามัญ 35 คณะ ของสภาผู้แทนราษฎรในชุดที่ 26 ในรูปแบบ Excel และ CSV แทน โดยในครั้งแรก เราได้ชุดข้อมูลดังกล่าวมาเป็นกระดาษมาทั้งหมด 5 แผ่น และเสียค่าดำเนินงาน 5 บาท โดยเราจะต้องเข้าไปรับที่กลุ่มงานข้อมูลข่าวสาร ที่อาคารรัฐสภาเองเท่านั้น (No ส่งปณ. No ส่งอีเมล) เราเลยเอะใจว่า ข้อมูลรายละเอียดของกมธ. ทั้ง 35 คณะ จะอยู่ในกระดาษ 5 แผ่นได้อย่างไร? สรุปข้อมูลที่ได้มา ก็อาจจะยังไม่ใช่น้าา .. รายละเอียดการใช้จ่าย วันที่ ไปไหนหมด.. 😓
ไปกันต่อที่ความพยายามรอบที่สอง เนื่องจากเราได้ใช้ไพ่ใบคำวินิจฉัยจบไปแล้ว และสำนักเลขาฯ ก็ได้ส่งข้อมูลมาให้แล้ว (แม้ว่าข้อมูลจะไม่ถูกใจก็ตาม แต่ถือว่าให้แล้วนะ) เราเลยจำเป็นต้องขอผ่านระบบคำขอออนไลน์ใหม่อีกหนึ่งครั้ง อารมณ์เหมือนเริ่มต้นใหม่กับคนเดิม..
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเรื่องข้อมูลงบประมาณ สิ่งที่พวกเราอยากรู้คือ ‘รายละเอียด’ ว่ามีการใช้จ่ายไปกับอะไร? เมื่อวันที่เท่าไหร่? รอบนี้เรายืนยันว่าจะไม่เอากระดาษอีกต่อไป และเราขอรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณที่มีความละเอียดมากกว่านี้ เราได้ขอให้ทางสำนักเลขาฯ รบกวนช่วยส่งไฟล์ (อย่างน้อย) PDF หรือ (ถ้าเป็นไปได้) Excel/CSV ผ่านทางอีเมลให้เราที เพราะการเดินทางมาอาคารรัฐสภา มีค่าใช้จ่ายและใช้เวลาสูงมาก และการขอข้อมูลสาธารณะจากรัฐสภา ไม่ควรมีต้นทุนที่ตกอยู่กับประชาชน หลังจากผ่านไปประมาณ 3 อาทิตย์ สำนักเลขาฯ ก็ได้ติดต่อให้เราเข้าไปรับเอกสารชุดข้อมูลที่รัฐสภา (เหมือนเดิม) โดยคราวนี้เราได้รับชุดข้อมูลมาในรูปแบบ “แผ่น CD” ที่บรรจุไฟล์ PDF แบบสแกนจากรูปถ่ายอีกที จำนวน 3 ไฟล์ และมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 30 บาท..

คำถามที่เข้ามาในหัวคือ ในปีพ.ศ.นี้ เราจะเปิดแผ่น CD นี้ยังไงดีล่ะ? 🥲 .. สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานได้เหตุผลของการที่ไม่สามารถส่งอีเมลได้ว่า “จำเป็นต้องทำตามระเบียบปฏิบัติเดิม หากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการ อาจต้องไปตอบคำถาม ’ผู้บังคับบัญชา’ ว่าทำไมไม่ทำตามวิธีการเดิม” นั่นหมายความว่า แม้เทคโนโลยีจะล้ำไปขนาดไหน แต่บางทีวิธีปฏิบัติในองค์กรบางครั้งก็ยังต้องยึดตามกฎเดิม (แล้วเมื่อไหร่จะได้เป็น Thailand 6.0 สักที)
เมื่อระเบียบยังขาดความชัดเจนและแนวทางปฏิบัติยังล้าสมัย นอกจากการพยายามผลักดันให้ภาครัฐมีการเปิดเผยข้อมูลหลายชุด เราจึงพยายามผลักดันให้ภาครัฐ รวมถึงรัฐสภาเองจำเป็นต้องกำหนด “มาตรฐานของชุดข้อมูล” (Data Standard) ว่าข้อมูลในครอบครองขององค์กรแต่ละชุดนั้น ควรเปิดเป็นปกติ ปิดเป็นข้อยกเว้น (Open by Default) เปิดเผยในเวลาที่เหมาะสม (Timely Manner) และในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพและพร้อมใช้งาน(Accessible and Usable) เช่น ข้อมูลแบบ machine readable ที่สามารถนำไปให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลต่อได้เลย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการสนับสนุนเรื่องความโปร่งใสภายในหน่วยงาน ประชาชนและภาคประชาสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบและแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งจะสามารถนำความคิดเห็นดังกล่าวไปประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนได้
จากประสบการณ์ครั้งนี้ เราอยากส่งเสียงไปถึงรัฐสภาให้ตระหนักว่า ข้อมูลเหล่านี้ควรเปิดเป็นค่าเริ่มต้น ไม่ใช่รอให้ประชาชนมาขอ และต้องใส่ใจคุณภาพและรูปแบบของข้อมูลที่ส่งให้ประชาชนด้วยว่าข้อมูลที่ได้มานั้นมีประโยชน์จริงหรือไม่ อีกและมากไปกว่านั้น การเข้าถึงข้อมูลรัฐสภาไม่ควรทำให้ประชาชนต้องแบบรับต้นทุนจ่ายค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
จุดเริ่มต้นของรัฐสภาโปร่งใส มาจากการมีข้อมูลเปิดที่คุณภาพดี เข้าถึงได้ง่าย และไม่มีค่าใช้จ่าย
ดูเอกสารงบประมาณฯ ฉบับเต็มได้ที่ → https://drive.google.com/drive/folders/1-FXWkNFjffQbiGvs_UscIOuuXCGHOnJv
