WeVis x Citizen Campaign Lab: Open Parliament 101 เปิดประตูสู่รัฐสภาโปร่งใส…เปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม!

องค์กรเทคโนโลยีภาคประชาชน WeVis ร่วมกับ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร และ แฮนด์ วิสาหกิจเพื่อสังคม ร่วมมือกันจัดกิจกรรมสัมมนา WeVis x Citizen Campaign Lab: Open Parliament 101 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 08.30–12.00 น. ณ ห้องประชุม B1-1 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมแนวคิด “รัฐสภาเปิด” (Open Parliament) ที่ยึดหลัก ความโปร่งใส การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบ ผ่านการเปิดเผยข้อมูลของรัฐสภาในรูปแบบที่ประชาชนเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กิจกรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ส.ส. และ ส.ว. เข้าร่วมเปิดงาน โดยเน้นย้ำแนวคิด “รัฐสภาแบบเปิด” (Open Parliament) เพื่อสร้างความเข้าใจและความมีส่วนร่วมของประชาชน

ฉัตร สุภัทรวณิชย์ (ประธาน กมธ. พัฒนาการเมืองฯ ส.ส.)
ชี้ให้เห็นความสำคัญของการสื่อสารระหว่างรัฐสภาและประชาชน ว่า Open Parliament ไม่ใช่เพียงการเผยแพร่ข้อมูล แต่ต้องทำให้ประชาชนเข้าถึง เข้าใจ และสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจได้ พร้อมย้ำว่าการใช้เทคโนโลยีช่วยจัดการข้อมูลจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว

นรเศรษฐ์ ปรัชญากร (กมธ. พัฒนาการเมืองฯ ส.ว.)
กล่าวว่า Open Parliament เป็นหัวใจสำคัญของประชาธิปไตยยุคใหม่ รัฐสภาต้องเป็นพื้นที่สาธารณะที่โปร่งใสและเข้าใจง่าย การมีส่วนร่วมของประชาชนต้องครอบคลุมทั้งการรับฟังความคิดเห็นและกลไกในการสะท้อนเสียงประชาชนสู่การตัดสินใจ เชื่อมั่นว่าแนวทางนี้จะสร้างรากฐานที่มั่นคงของความไว้วางใจระหว่างรัฐสภาและประชาชน และสามารถต่อยอดไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและวัฒนธรรมการเมือง

ภายในงานมีการบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จาก WeVis เกี่ยวกับแนวคิด “เปิดให้รู้ เปิดให้ร่วม และเปิดให้ทวงถาม” พร้อมตัวอย่างแนวปฏิบัติจากต่างประเทศ ที่มีรูปแบบการดำเนินงานของรัฐสภาที่สามารถให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลการประชุมสภาและสื่อสารกับสมาชิกสภาได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยธนิสรา เรืองเดช CEO and co-founder แห่ง WeVis

กิจกรรมแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 6 กลุ่ม ภายใต้ 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ Open for Transparency 3 กลุ่ม (กลุ่ม 1,3 และ 5) และ Citizen Participation 3 กลุ่ม (กลุ่ม 2,4 และ 6) เพื่อร่วมกันออกแบบแนวทางทำให้รัฐสภาไทยเป็น “รัฐสภาเปิด” อย่างแท้จริง

ตัวอย่างการนำเสนอแนวทาง “รัฐสภาเปิด” ของผู้เข้าร่วม

ประเด็น Open for Transparency (กลุ่ม 1,3 และ 5)

กลุ่ม 1 ข้อมูลโครงการขนาดใหญ่ (Mega Projects) ที่ไม่โปร่งใสและไม่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ผู้เข้าร่วมชี้ให้เห็นว่าระบบร้องเรียนและการมีส่วนร่วมกับรัฐสภายังไม่โปร่งใส เข้าถึงยาก ขั้นตอนซับซ้อน และการสื่อสารไม่ทั่วถึง ทำให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รู้สึกห่างเหินและไม่มั่นใจว่าเสียงของตนจะถูกส่งต่อถึงผู้มีอำนาจ ภาพฝันของพวกเขาคือรัฐสภาที่โปร่งใส ใช้งานง่าย เข้าถึงได้รวดเร็ว มีช่องทางร้องเรียนที่ชัดเจน เปิดข้อมูลย้อนหลังของสภา และมีมาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียน พร้อมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เพื่อเชื่อมรัฐสภากับประชาชน ขณะที่ข้อเสนอเชิงปฏิบัติคือให้รัฐสภาลดความเป็นราชการ ลงพื้นที่เชิงรุก เปิดเวทีพูดคุยกับประชาชนโดยตรง ส่วนประชาชนและสื่อควรมีบทบาทตรวจสอบและย่อยข้อมูลเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและทำให้ระบบการเมืองตอบสนองต่อประชาชนมากขึ้น

กลุ่ม 3 การเปิดเผยข้อมูลที่กระจัดกระจายและขาดคุณภาพ

ผู้เข้าร่วมสะท้อนปัญหาข้อมูลของรัฐสภาที่กระจัดกระจาย ไม่มีมาตรฐานกลาง และติดขั้นตอนราชการ รวมถึงข้อจำกัดของ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2540 ที่ไม่ทันยุคดิจิทัล ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตรวจสอบได้ยาก ภาพฝันคือเว็บไซต์รัฐสภาแบบศูนย์รวมข้อมูลที่ใช้งานง่าย เปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็น ให้ความรู้ และมีเวอร์ชันที่ออกแบบสำหรับประชาชน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการด้านการเปิดข้อมูลที่เปิดให้สาธารณชนร่วมเป็นสมาชิก แนวทางขับเคลื่อนคือการปรับกฎหมายข้อมูลข่าวสารใหม่ กำหนดให้การเปิดข้อมูลเป็นมาตรฐาน พัฒนาเว็บไซต์ต่อเนื่อง และส่งเสริมให้ประชาชนร่วมสร้างข้อมูลหรือระบบต้นแบบควบคู่ไปกับเวทีสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ

กลุ่ม 5 การไม่เปิดเผยข้อมูลของคณะกรรมาธิการ

ผู้เข้าร่วมชี้ว่าคณะกรรมาธิการทำงานทึบแสง ขาดการเผยแพร่ข้อมูล ระบบติดตามงานไม่เป็นมาตรฐาน และประชาชนเข้าถึงประชุมหรือรายชื่อผู้เกี่ยวข้องได้ยาก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่ำ และเปิดช่องให้สมาชิกคณะกรรมาธิการบางกลุ่มไม่ถูกตรวจสอบ ภาพฝันคือระบบข้อมูลคณะกรรมาธิการที่โปร่งใส ใช้งานง่าย ทั้งเว็บไซต์ LINE Official หรือถ่ายทอดสดประชุม พร้อม KPI วัดความโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูล เสนอชื่อผู้เหมาะสม และเข้าร่วมสังเกตการณ์ แนวทางขับเคลื่อนรวมถึงการเปิดเผยรายชื่อ งบประมาณ ตารางงาน การจัดซื้อจัดจ้าง ถ่ายทอดสดประชุม ตรวจสอบผลประโยชน์ของสมาชิก พร้อมให้ประชาชนและรัฐร่วมสร้างข้อมูลเปิดและใช้ AI/Dashboard สนับสนุนความโปร่งใส

ประเด็น Citizen Participation (กลุ่ม 2,4 และ 6)

กลุ่ม 2 ช่องว่างการเข้าถึงรัฐสภาและทรัพยากรของประชาชน 

ผู้เข้าร่วมสะท้อนว่ารัฐสภายังเป็นพื้นที่ไม่เป็นมิตร เข้าถึงยาก และซับซ้อน ทำให้ประชาชนไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน รู้สึกห่างเหินและหมดแรงจูงใจ ภาพฝันคือรัฐสภาที่โปร่งใส เข้าถึงง่าย ทั้งข้อมูล กระบวนการ และบุคลากร พร้อมเปิดข้อมูลเชิงรุก มีช่องทางที่เข้าใจง่าย และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทเชื่อมสังคมภายนอก แนวทางขับเคลื่อนคือปรับภาพลักษณ์องค์กร เว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย จัดทุนหรือกิจกรรมให้ประชาชนร่วมงานกับสภา และสร้างรัฐที่เคลื่อนเข้าหาประชาชนควบคู่กับการสร้างประชาชนที่พร้อมมีส่วนร่วม

กลุ่ม 4 การเปิดข้อมูลเพื่อหนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมสร้างกลไกรับฟังข้อเสนอ, ข้อเรียกร้อง ต่อรัฐสภาในทุกเรื่องที่ต้องการ

ผู้เข้าร่วมสะท้อนว่ารัฐสภายังมีระบบร้องเรียนและการมีส่วนร่วมที่ขาดความชัดเจน โปร่งใส และเข้าถึงได้จริง ขั้นตอนซับซ้อน ช่องทางจำกัด และการสื่อสารไม่ทั่วถึง ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางรู้สึกห่างเหินและไม่มั่นใจว่าเสียงของตนจะถึงผู้มีอำนาจ ภาพฝันคือรัฐสภาที่โปร่งใส เข้าใจง่าย มีช่องทางร้องเรียนชัดเจน เปิดข้อมูลย้อนหลัง และมีกระบวนการคุ้มครองผู้ร้องเรียน พร้อมเว็บไซต์ใช้งานง่ายและประชาสัมพันธ์เชิงพื้นที่ ขณะที่แนวทางขับเคลื่อนคือรัฐสภาลดความเป็นราชการ ลงพื้นที่พูดคุยประชาชนโดยตรง เปลี่ยนเป็นเชิงรุก ส่วนประชาชนและสื่อควรตรวจสอบและย่อยข้อมูลเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและทำให้ระบบการเมืองรับผิดชอบต่อประชาชนมากขึ้น

กลุ่ม 6 การเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนและนำไปใช้งานต่อได้

ผู้เข้าร่วมสะท้อนว่าการเปิดเผยข้อมูลของรัฐสภายังไม่ต่อเนื่อง ใช้งานต่อไม่ได้ และขาดความชัดเจนในขอบเขตและรูปแบบข้อมูล ทำให้ประชาชนและภาคประชาสังคมติดตามหรือตรวจสอบงานรัฐได้ยาก ภาพฝันคือรัฐสภาที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลเปิด ข้อมูลเข้าถึงง่าย มีมาตรฐาน ชัดเจน และนำไปใช้งานต่อได้ ทั้งติดตามงบประมาณ กิจกรรมภายใน หรือแสดงความคิดเห็นเชิงนโยบาย แนวทางขับเคลื่อนรวมถึงการเปิดฐานข้อมูลร่าง พ.ร.บ. ติดตามงบประมาณ จัดกิจกรรมและถ่ายทอดสดในรัฐสภา ทำข้อมูลให้นำไปใช้ต่อได้ และสร้างช่องทางให้ประชาชนส่งความเห็นและติดตามผลลัพธ์จนถึงขั้นปฏิบัติ

จากการระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกว่า 40 คน ซึ่งประกอบด้วยประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา และเจ้าหน้าที่รัฐสภา พบว่าการเปิดเผยข้อมูลของรัฐสภาไทยยังมีลักษณะ “ลักปิดลักเปิด” ข้อมูลหลายส่วนยังไม่ครบถ้วนหรือเข้าถึงได้ยาก เช่น ข้อมูลการลงมติของสมาชิกวุฒิสภา หรือบันทึกการประชุมกรรมาธิการที่ต้องยื่นคำร้องขอเป็นรายกรณี 

การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐสภาและภาคประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบและเสนอแนวทางพัฒนาการทำงานของรัฐสภาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านการเปิดเผยข้อมูล การเข้าถึงการประชุม การติดตามการทำงานของสมาชิกสภา และการตรวจสอบกระบวนการตัดสินใจต่าง ๆ ของรัฐสภา อีกทั้งยังช่วยสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐสภาและภาคประชาชนเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของรัฐสภา เปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถทวงถาม ตรวจสอบ และมีส่วนร่วมในทุกกระบวนการอย่างจริงจัง การสัมมนานี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบรัฐสภาให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นรัฐสภาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางในการกำหนดนโยบายและกระบวนการตัดสินใจอย่างแท้จริง

ส่องบรรยากาศและรับชม Live ภายในงานย้อนหลัง: https://www.facebook.com/share/v/1D2JvJBX4b/